top of page
รูปภาพนักเขียนTientip Narach

การแฮ็กการเติบโตจะปรับปรุงการวางแผนฉุกเฉินของธุรกิจคุณได้อย่างไร? สิ่งที่คุณต้องรู้ท่ามกลางความท้าทายรอบด้านในเวลานี้

อัปเดตเมื่อ 15 ก.ย.

หลายคนมีคำถามว่ากลยุทธ์คืออะไร? เราเชื่อว่ากลยุทธ์คือ วิธีที่ไม่เหมือนใครของคุณในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน และท่ามกลางความผันผวน ความไม่แน่นอนรอบด้าน ที่สร้างความเสี่ยงในเวลานี้ การแฮ็กการเติบโต (Growth hacking) จะช่วยปรับปรุงการวางแผนฉุกเฉิน (Contingency planning) ของธุรกิจคุณอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่คุณทำได้ทันที แต่อาจมองข้ามไป คุณเพียงต้องรู้ว่ามันคืออะไร และจะแฮ็กอย่างไรเพื่อช่วยการเติบโตของคุณให้เต็มศักยภาพ ยืดหยุ่น และพร้อมในทุกสถานการณ์ที่สำคัญ


การแฮ็กการเติบโตจะปรับปรุงการวางแผนฉุกเฉินของธุรกิจคุณได้อย่างไร?
การแฮ็กการเติบโตจะปรับปรุงการวางแผนฉุกเฉินของธุรกิจคุณได้อย่างไร?

สิ่งที่คุณทำเป็นลำดับต้นๆ เมื่อเผชิญความไม่แน่นอนทางธุรกิจคืออะไร? คุณรู้หรือไม่ว่า การแฮ็กการเติบโตคืออะไร และจะช่วยปรับปรุงการวางแผนฉุกเฉินของธุรกิจคุณได้อย่างไร?


การปรับลดประมาณการณ์ทางเศรษฐกิจของโลก รวมถึงประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 นี้ ส่งสัญญาณที่สำคัญที่ผู้ประกอบการต้องเพิ่มความรอบคอบและระมัดระวังในการวางแผนและดำเนินธุรกิจอย่างมาก เพราะเรากำลังอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางธุรกิจรอบด้าน โจทย์เรื่องการเติบโตที่ยังคงต้องทำต่อให้สำเร็จ โจทย์เรื่องกำไรและสภาพคล่องที่ต้องมีเพื่อให้ธุรกิจดำเนินกิจการได้ต่อเนื่อง คำถามคือ วันนี้อะไรคือสิ่งที่คุณทำเป็นลำดับต้นๆ เพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจดังกล่าว และคุณบรรลุความสำเร็จอย่างที่คาดหวังมากน้อยเพียงใด?


วันนี้จะมาเล่าสู่กันฟังถึงกลยุทธ์การแฮ็กการเติบโต (Growth hacking) เพื่อช่วยปรับปรุงการวางแผนฉุกเฉิน (Contingency planning) ของธุรกิจคุณว่าจำเป็นอย่างไร และสามารถทำได้อย่างไร?


ความสำคัญของการวางแผนฉุกเฉินกับคำถาม "การแฮ็กการเติบโตจะปรับปรุงการวางแผนฉุกเฉินของธุรกิจคุณได้อย่างไร?"


การวางแผนฉุกเฉิน (Contingency planning) ของธุรกิจ คือกระบวนการประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นและผลลัพธ์ที่ตามมาจากเหตุการณ์นั้นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบต่อการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย และความราบรื่นของการดำเนินธุรกิจ


ส่ิงที่เราแนะนำให้คุณทำในการวางแผนฉุกเฉิน คือ

  • ระบุปัจจัยความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นให้รอบด้าน

  • วิเคราะห์ลักษณะของแต่ละความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนั้น และคาดการณ์ผลกระทบต่อธุรกิจในทุกมิติการดำเนินงาน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

  • จัดลำดับความสำคัญของแต่ละความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนั้น ตามความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์ และนัยสำคัญหรือขนาดของผลกระทบต่อธุรกิจของคุณตามที่ได้วิเคราะห์แล้ว

  • วางแผนฉุกเฉินเพื่อดำเนินการ เพื่อลดความเสี่ยงหรือบรรเทาผลลัพธ์จากความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในแต่ละเหตุการณ์


ในทุกธุรกิจไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่เพียงใด ต่างจำเป็นต้องมีการวางแผนฉุกเฉินเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์รอบตัวที่กำลังดำเนินอยู่ ทำให้สามารถระบุความเสี่ยงได้ล่วงหน้าและหาวิธีการบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยง บรรเทา ฟื้นฟู หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส


การแฮ็กการเติบโตจะปรับปรุงการวางแผนฉุกเฉินของธุรกิจคุณได้อย่างไร?


การแฮ็กการเติบโต (Growth hacking) คือกลยุทธ์ทางธุรกิจแบบเคลื่อนที่เร็วและมุ่งเน้นไปที่การบรรลุการเติบโตแบบทวีคูณในกรอบเวลาอันสั้น สามารถช่วยคุณวางแผนฉุกเฉิน (Contingency planning) ได้อย่างมาก และมีกลยุทธ์การดำเนินการได้หลายวิธีตามความเหมาะสมและความถนัดของแต่ละธุรกิจ อาทิ

  • ระบุและคัดเลือกตลาดเป้าหมาย คุณค่าที่นำเสนอ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์

  • เพิ่มประสิทธิผลของการจัดการการขายและการตลาด

  • สร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการ

  • วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มความเข้าใจลูกค้าและสร้างความพึงพอใจสูงสุด


ยิ่งคุณสามารถแฮ็กการเติบโตได้เร็วเท่าไหร่ โอกาสการเติบโตและสร้างผลกำไรทางธุรกิจก็จะยิ่งมากขึ้นและเร็วขึ้นตามไปด้วย เพราะคุณจะดำเนินธุรกิจในทิศทางที่คุณวิเคราะห์และเลือกเป็นเป้าหมายแล้วอย่างชัดเจน ทั้งลูกค้าเป้าหมาย สินค้าและบริการเป้าหมาย ช่องทางเป้าหมาย ลดการใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดทั้ง คน เงิน และเวลา ในเรื่องที่อยู่นอกเหนือจากเป้าหมาย และธุรกิจของคุณมีความพร้อมอย่างมากกับการวางแผนฉุกเฉิน เพราะคุณมีความชัดเจนในสิ่งที่คุณจะทำ สิ่งที่คุณจะไม่ทำ และความยืดหยุ่นในการดำเนินการจากทรัพยากรที่มีเหลืออยู่มาก


เทคนิคการแฮ็กการเติบโตเพื่อปรับปรุงการวางแผนฉุกเฉินของธุรกิจคุณให้ประสบผลสำเร็จ


ตัวอย่างของการวางแผนฉุกเฉิน (Contingency planning) ที่คุณสามารถทำได้เป็นลำดับแรกๆ คือ การทำ การแบ่งจัดกลุ่มลูกค้า (Customer segmentation) โดยอาจเลือกแบ่งตามลักษณะเฉพาะ (Characterictics) พฤติกรรม (Behaviors) ขนาดธุรกิจ (Business sizes) หรือ ความต้องการ (Needs) เป็นต้น เพื่อวางแผนที่แตกต่างกันในการพัฒนาสินค้าและบริการ รูปแบบการให้บริการและการสื่อสาร เทคนิคต่างๆ เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการบริหารความเสี่ยงและการวางแผนฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี จากความเข้าใจและการแบ่งจัดกลุ่มลูกค้าในการดำเนินธุรกิจ ที่อาจเผชิญความเสี่ยงที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาในอนาคต


คุณจะใช้การแฮ็กการเติบโตสําหรับการวางแผนฉุกเฉินได้อย่างไร?


การแฮ็กการเติบโตจะปรับปรุงการวางแผนฉุกเฉินของธุรกิจคุณได้อย่างไร? คือส่ิงที่คุณต้องเข้าใจและเตรียมการเพื่อความพร้อมทางธุรกิจตั้งแต่วันนี้ คุณเข้าใจการวางแผนฉุกเฉิน (Contingency planning) และการแฮ็กการเติบโต (Growth hacking) และคุณต้องใช้การแฮ็กการเติบโตสำหรับการวางแผนฉุกเฉิน เราแนะนำตัวอย่างเพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถเริ่มดำเนินการได้สำหรับธุรกิจของคุณ คือ


  • กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ (Goals) โดยมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน (KPIs) ทั้งในระยะสำหรับปีนี้ ปีหน้า และอีกสามปีข้างหน้า เป็นต้น เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการระบุปัจจัยภายนอกหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและกระทบต่อธุรกิจของคุณ ทั้งในด้านลูกค้าเป้าหมายที่คุณให้บริการอยู่ อุตสาหกรรรมและธุรกิจที่คุณดำเนินการอยู่

  • เลือกลำดับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นลำดับต้นๆ มาพัฒนาแผนธุรกิจและกลยุทธ์เพื่อรองรับหากเหตุการณ์นั้นๆ เกิดขึ้นจริง โดยสามารถที่จะดำเนินการจริงทางธุรกิจได้เลย และกำหนดเป้าหมายงบประมาณและเวลาในการดำเนินงานในลักษณะโครงการ เพราะความเสี่ยงในลำดับต้นๆ นั้นมีผลกระทบต่อธุรกิจสูง และมีความน่าจะเป็นสูงที่อาจจะเกิดขึ้น

  • วิเคราะห์ผลลัพธ์จากการดำเนินงานตามโครงการข้างต้นในแต่ละโครงการ เพื่อระบุสิ่งที่ทำได้ดี สิ่งที่ควรปรับปรุง รองรับในกรณีที่เหตุการณ์นั้นๆ เกิดขึ้นจริงในอนาคต และคุณจะมีความพร้อมทั้งทักษะ กลยุทธ์ เทคนิค และคน ในการดำเนินงานตามแผนฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์


ทักษะและเทคนิค การแฮ็กการเติบโตจะปรับปรุงการวางแผนฉุกเฉินของธุรกิจคุณได้อย่างไร? เป็นสิ่งที่คุณต้องเรียนรู้ วางแผน ทดลองดำเนินการ จนมีความเชี่ยวชาญและความพร้อมในการบริหารจัดการธุรกิจให้เอาอยู่กับสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆ รอบด้านที่เผชิญอยู่ และธุรกิจทุกขนาดต่างจำเป็นต้องมีการวางแผนฉุกเฉินเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์รอบตัวที่กำลังดำเนินอยู่ ทำให้สามารถระบุความเสี่ยงได้ล่วงหน้าและหาวิธีการบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยง บรรเทา ฟื้นฟู หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส เพื่อการเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น


ที่ปรึกษาทรัพย์ทวีจะเป็นผู้ช่วยเพื่อการเติบโตของคุณในการจัดการธุรกิจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างไร?


เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพิจารณาว่าการพูดคุยในเชิงลึกกับเราเป็นสิ่งจำเป็น เราพร้อมและยินดีเสมอในการร่วมคิดร่วมทำกับคุณในรูปแบบการให้บริการที่คุณเลือกได้ ไม่ว่าจะเป็น


  • การออกแบบเส้นทางความสำเร็จของคุณ หรือ โมเดลธุรกิจ (Business Model)

  • การออกแบบแผนธุรกิจที่ติดตามและวัดผลความสำเร็จได้ (Business Plan)

  • การตรวจสุขภาพธุรกิจเชิงกลยุทธ์เพื่อระบุสิ่งที่ต้องดำเนินการเสริมสร้างความแข็งแรงให้พร้อมกับโอกาสและความท้าทายใหม่ (Business Health Check and Action Plans)

  • การร่วมนำแผนงานไปปฏิบัติและติดตามความสำเร็จกับทีมงานของคุณ (Business Development Execution) ในหลายรูปแบบ เช่น การจัดการโครงการ (Project Management) การประชุมเชิงปฏิบัติการกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Business Strategy Workshop) และการฝึกอบรมพนักงาน (Training and Cascading Program)

 

คุณสามารถนำสิ่งที่ค้นพบและเข้าใจจากการตรวจสุขภาพธุรกิจเชิงกลยุทธ์ ที่ธุรกิจนำไปกำหนดแผนงานเร่งด่วน เพื่อการเติบโตและสร้างผลกำไร ในแบบที่คุณถนัดและต้องการ


ยินดีต้อนรับสู่ "Supthavee Blog" พื้นที่เผยแพร่และแบ่งปันบทความและเรื่องราวต่างๆ ด้านการจัดการธุรกิจ เทคนิคที่คุณต้องรู้ กลยุทธ์การตลาด และกลยุทธ์การจัดการ ผ่านการเล่าแนวคิดที่ผสมผสานกับกรณีศึกษาเพื่อให้ติดตามและเข้าใจได้ชัดเจนมากขึ้น ที่คุณจะสามารถเพลิดเพลินในการติดตามอ่านได้เป็นประจำค่ะ


เทียนทิพย์ นาราช

ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ

บริษัท ที่ปรึกษาทรัพย์ทวี จำกัด

Supthavee Advisory Company Limited

เราคือ ที่ปรึกษาธุรกิจการจัดการเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเติบโตและสร้างผลกำไรจากรุ่นสู่รุ่นอย่างยั่งยืน


ติดต่อเราได้ที่

Phone: 080-823-2877


Reference: LinkedIn Forum









Comments


bottom of page