top of page
รูปภาพนักเขียนTientip Narach

คุณจะแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น และระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจได้อย่างไร? เทคนิคที่คุณต้องรู้

อัปเดตเมื่อ 27 ก.ย.

กรณีศึกษา Upwork ในอเมริกาให้บริการตลาดออนไลน์จับคู่ธุรกิจกับฟรีแลนซ์ ที่ความสำเร็จขึ้นกับการปรากฏในผลการค้นหา และ Honda หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ลดความสำคัญของแนวโน้มระยะสั้นด้านกระแสรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ และเร่งการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์แนวโน้มระยะยาว คือกระแสรถยนต์พลังงานสะอาด ให้มาถึงเร็วขึ้นภายในปี 2040


แน่นอนว่าการแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น กับแนวโน้มระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจมีความสำคัญอย่างมาก และในหลายกรณีเราจะพบว่าแนวโน้มระยะยาวนั้นสั้นกว่าในอดีตมาก และการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มระยะสั้นก็น้อยลงไปมาก เราจะใช้ประโยชน์สูงสุดจากแนวโน้มระยะสั้น และบริหารความเสี่ยงสำหรับโอกาสจากแนวโน้มระยะยาวได้อย่างไร?




คุณจะแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น และระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจได้อย่างไร? เทคนิคที่คุณต้องรู้
คุณจะแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น และระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจได้อย่างไร? เทคนิคที่คุณต้องรู้

ถ้าคุณเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น Nasdaq ให้คำนิยาม แนวโน้มระยะสั้นไว้ว่า "การเคลื่อนไหวของราคาที่เบี่ยงเบนซึ่งกินเวลาน้อยกว่าสามสัปดาห์” ในขณะที่ระยะยาวคือ "สามปีหรือมากกว่านั้น ในบริบทของการบัญชีมากกว่า 1 ปี” สำหรับตลาดหุ้นการแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น กับแนวโน้มระยะยาว ในกลยุทธ์การลงทุนชัดเจนสำหรับหลายๆ คน


"Short-term trend definition: Erratic price movements that last less than three weeks. Long-term definition is Three or more years. In the context of accounting, more than 1 year." - Financial Terms by Nasdaq

ในการทำธุรกิจก็เช่นกัน คุณก็คือนักลงทุนในธุรกิจของคุณเองที่ต้องสามารถแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น และระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจให้ได้เพื่อการเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น และเราสามารถประยุกต์ความเข้าใจของเราที่มีจากการเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นที่เราคือ นักลงทุนในธุรกิจของคนอื่น แต่กับธุรกิจของคุณเอง แน่นอนว่าคุณย่อมให้น้ำหนักที่มากกว่าสำหรับแนวโน้มระยะยาว


แน่นอนว่าคุณสามารถเป็นนักลงทุนระยะยาว (Value Investor) ได้ในตลาดหุ้นหากคุณมีสภาพคล่องส่วนเกินที่นำมาลงทุนที่ไม่จำเป็นต้องรีบขายและคุณให้ความสำคัญกับแนวโน้มระยะยาวเป็นหลัก แต่ถ้าคุณไม่ใส่ใจแนวโน้มระยะสั้นในธุรกิจ นั่นอาจหมายถึงการใช้ทรัพยากรที่มากขึ้นทั้งเงินทุน คน และเวลา เพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาว ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?


“Data is a tool for enhancing intuition.” - Hilary Mason, data scientist and founder of Fast Forward Labs

ผู้เชี่ยวชาญต่างให้นิยามว่าการวิเคราะห์แนวโน้มเป็นเทคนิคที่ธุรกิจใช้ในการศึกษาพฤติกรรมของชุดข้อมูลที่กําหนดเมื่อเวลาผ่านไป และมีทั้งแนวโน้มระยะสั้น และแนวโน้มระยะยาว


ทำไมคุณจึงจำเป็นต้องใส่ใจกับแนวโน้มระยะสั้น ควบคู่กับแนวโน้มระยะยาว?


การวิเคราะห์แนวโน้มสามารถช่วยให้ธุรกิจระบุโอกาสใหม่ ๆ จากข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกค้าซื้อและทําไมจึงซื้อ เพื่อพัฒนาความเข้าใจความต้องการของลูกค้าเพื่อออกสินค้าและบริการใหม่หรือแคมเปญการตลาดที่ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หรือในระหว่างที่เพิ่งออกสินค้าและบริการใหม่และมีแคมเปญการตลาด ก็จะต้องวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับกลยุทธ์หรือเทคนิคเพื่อให้ประสบผลสำเร็จ และนั่นคือความสำคัญของแนวโน้มระยะสั้น ความต้องการของลูกค้าที่เป็นไปตามกระแสในช่วงเวลาหนึ่งๆ และเทคนิคการตลาดที่ต้องเข้าถึงลูกค้า ดึงดูดความสนใจ และสร้างยอดขายที่ดี


การแยกความแตกต่างของแนวโน้มระยะสั้นจากแนวโน้มระยะยาวได้ จะทำให้คุณตอบสนองได้เร็วและปรับแต่งเทคนิควิธีการได้ตามสภาวะทางการตลาด กรณีศึกษาที่นำมาใช้ประกอบนี้จะช่วยให้คุณเห็นเทคนิคการแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น และระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจ ได้ชัดเจนมากขึ้น


กรณีศึกษา: ความสำคัญของการแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น และระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจ


กรณีศึกษาที่ 1: Upwork ให้บริการตลาดออนไลน์จับคู่ธุรกิจกับฟรีแลนซ์ กับการแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น และระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจ


กลยุทธ์หลักของ Upwork คือ การดึงดูดผู้สนใจจํานวนมากไปยัง website โดยใช้การตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาใน google เพื่อให้ Upwork ปรากฏในตำแหน่งที่สองจากผลการค้นหา “ฟรีแลนซ์ที่ดีที่สุด”


สิ่งที่คาดว่า Upwork อาจจะทำในแต่ละวันคือ การระบุแนวโน้มระยะสั้นของผลการค้นหา เพื่อรักษาตำแหน่งที่ปรากฏในลำดับแรกๆ ให้ได้ เพราะนั่นหมายถึงรายได้ที่จะเกิดขึ้นต่อฟรีแลนซ์ทั้งหมดในแพลตฟอร์ม

  • ติดตามลำดับที่ปรากฏในการค้นหา

  • ปรับแต่งคำค้นหา เพื่อให้พบการค้นหาได้มากขึ้น

  • ติดตามจำนวนผู้สนใจที่เลือกใช้บริการฟรีแลนด์ในแพลตฟอร์ม

  • ตรวจสอบความสำเร็จของแต่ละฟรีแลนด์

และกิจกรรมอื่นๆ เพื่อรักษาตำแหน่งที่ปรากฏในการค้นหา


แล้วสิ่งที่ Upwork ต้องทำเพื่อจัดการกับแนวโน้มระยะยาวคืออะไร? ตัวอย่างเช่น

  • วิเคราะห์ว่างานบริการด้านใดที่จะมีผู้สนใจมากขึ้นในการใช้บริการฟรีแลนด์

  • ขยายเครือข่ายฟรีแลนด์ที่กำลังจะเป็นที่ต้องการและอาจมีจำนวนไม่มากในปัจจุบัน


นั่นคือตัวอย่างหนึ่งในการแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น กับแนวโน้มระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจ ซึ่งสำคัญมากต่อการเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน


กรณีศึกษาที่ 2: Honda หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ กับการแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น และระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจ


วันนี้ที่หลายคนเริ่มซื้อหารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้กันมากขึ้น เชื่อว่าผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทานรถยนต์จะเริ่มกังวลว่าจะปรับตัวอย่างไรในวันนี้เพื่อให้อยู่รอดปลอดภัย ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึงในอีก 5-10 ปีนี้


หลายบริษัทอาจเริ่มศึกษาและเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะแบตเตอรี่ และสถานีชาร์ตแบตเตอรี่ เพราะหากเปรียบเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น อุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ แบตเตอรี่จำเป็นอย่างมากทั้งการเปลี่ยนแบตเตอรี่และการชาร์ตแบตเตอรี่ และหลายคนอาจคิดว่านี่คือแนวโน้มระยะยาว


สำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์แล้ว รถยนต์ไฟฟ้าเป็นแนวโน้มระยะสั้น แล้วแนวโน้มระยะยาวคืออะไรสำหรับผู้ประกอบการรถยนต์?


ถ้าเรามาพิจารณา Competitiveness โดยสรุปแล้ว อุตสาหกรรมรถยนต์มี Low threat of new entrants, Moderate bargaining power of suppliers, High bargaining power of buyers, High threat of substitute products or services, และ High rivalry among existing competitors


ถ้าเราติดตามนัยยะการสื่อสารของ Honda ในช่วงที่ผ่านมาจะพบข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ


Honda สื่อความว่า วันนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนรูปจาก “Efficient Engine” เป็น “Extremely Efficient Engine” และจะไม่มีอุตสาหกรรมรถยนต์อีกต่อไป ทั้ง Honda

รถยนต์ญี่ปุ่นอื่นๆ และรถยนต์ทั่วโลก จะเปลี่ยนรูปเป็น “Tech Company” โดยใช้จุดแข็งของ

จุดตัดระหว่างเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมยานยนต์ (Intersection between tech and automotive industry)


Honda ให้ข่าวว่า "ระบบรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงรุ่นถัดไปจะเป็นรถยนต์ CR-V ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน โดยอาศัยเซลล์เชื้อเพลิงที่ Honda และ GM ร่วมกันพัฒนาใหม่นี้ และจะมีต้นทุนการผลิตด้านฮาร์ดแวร์ถูกลงถึงหนึ่งในสาม เนื่องจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงการลดลงของโลหะมีค่าและการออกแบบเซลล์ใหม่"


นั่นคือความสำคัญของการแยกระหว่างแนวโน้มระยะสั้น และระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจ


สำหรับ Honda นั้น เห็นด้วยกับแนวโน้มระยะยาวที่ทั่วโลกต่างผลักดัน กฎหมายเพื่อจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (legistration to limit greenhouse emissions) และนั่นหมายถึงการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งห่วงโซ่อุปทาน แต่ Honda ลดความสำคัญของแนวโน้มระยะสั้นด้านรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ และเร่งการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์แนวโน้มระยะยาว คือรถยนต์พลังงานสะอาดที่อาจไม่ใช่พลังงานแบตเตอรี่ ให้มาถึงเร็วขึ้นภายในปี 2040


แน่นอนว่าการแยกความแตกต่างระหว่างแนวโน้มระยะสั้น กับแนวโน้มระยะยาว ในกลยุทธ์ธุรกิจมีความสำคัญอย่างมาก และในหลายกรณีเราจะพบว่าแนวโน้มระยะยาวนั้นสั้นกว่าในอดีตมาก และการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มระยะสั้นก็น้อยลงไปมาก

อย่างในกรณีรถยนต์พลังงานแบตเตอรี่ ที่ผู้ประกอบการไทยต้องรอบคอบในการวางแผนการลงทุนเชิง

กลยุทธ์และบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากแนวโน้มระยะสั้นนี้ และมีเงินทุนคงเหลือมากพอที่จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มระยะยาวที่กำลังจะมาถึงนี้ กับกลยุทธ์ใหม่ๆ ที่จำเป็น


ขอบคุณที่ยินดีให้เราให้บริการที่ปรึกษาธุรกิจสำหรับคุณและทีมงานของคุณ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการติดตามอ่านบทความของเราจะให้ทั้งอรรถรสในการอ่าน และเป็นตัวช่วยในการเติบโตและสร้างผลกำไรของธุรกิจคุณอย่างยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น


ที่ปรึกษาทรัพย์ทวีจะเป็นผู้ช่วยเพื่อการเติบโตของคุณในการจัดการธุรกิจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างไร?


เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพิจารณาว่าการพูดคุยในเชิงลึกกับเราเป็นสิ่งจำเป็น เราพร้อมและยินดีเสมอในการร่วมคิดร่วมทำกับคุณในรูปแบบการให้บริการที่คุณเลือกได้ ไม่ว่าจะเป็น


  • การออกแบบเส้นทางความสำเร็จของคุณ หรือ โมเดลธุรกิจ (Business Model)

  • การออกแบบแผนธุรกิจที่ติดตามและวัดผลความสำเร็จได้ (Business Plan)

  • การตรวจสุขภาพธุรกิจเชิงกลยุทธ์เพื่อระบุสิ่งที่ต้องดำเนินการเสริมสร้างความแข็งแรงให้พร้อมกับโอกาสและความท้าทายใหม่ (Business Health Check and Action Plans)

  • การร่วมนำแผนงานไปปฏิบัติและติดตามความสำเร็จกับทีมงานของคุณ (Business Development Execution) ในหลายรูปแบบ เช่น การจัดการโครงการ (Project Management) การประชุมเชิงปฏิบัติการกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Business Strategy Workshop) และการฝึกอบรมพนักงาน (Training and Cascading Program)


คุณสามารถนำสิ่งที่ค้นพบและเข้าใจจากการตรวจสุขภาพธุรกิจเชิงกลยุทธ์ ที่ธุรกิจนำไปกำหนดแผนงานเร่งด่วน เพื่อการเติบโตและสร้างผลกำไร ในแบบที่คุณถนัดและต้องการ


ยินดีต้อนรับสู่ "Supthavee Blog" พื้นที่เผยแพร่และแบ่งปันบทความและเรื่องราวต่างๆ ด้านการจัดการธุรกิจ เทคนิคที่คุณต้องรู้ กลยุทธ์การตลาด และกลยุทธ์การจัดการ ผ่านการเล่าแนวคิดที่ผสมผสานกับกรณีศึกษาเพื่อให้ติดตามและเข้าใจได้ชัดเจนมากขึ้น ที่คุณจะสามารถเพลิดเพลินในการติดตามอ่านได้เป็นประจำ


บริษัท ที่ปรึกษาทรัพย์ทวี จำกัด

Supthavee Advisory Company Limited

เราคือ ที่ปรึกษาธุรกิจการจัดการเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเติบโตและสร้างผลกำไรจากรุ่นสู่รุ่นอย่างยั่งยืน


ติดต่อเราได้ที่

Phone: 080-823-2877


อ้างอิง: https://www.nasdaq.com/glossary/

Comments


bottom of page